จัดการเรียนรู้ เพื่อ จัดการตนเอง
ราวต้นปี พ.ศ. ๒๕๕๒ ในยุคสมัยที่เหตุการณ์บ้านเมืองกรุ่นไปด้วยความแตกต่าง ทั้งความคิด ความเชื่อ อันหมายถึงรูปแบบและวิธีการที่แต่ละปัจเจกบุคคลพึงจะมี และให้ผลโดยตรงต่อการดำรงชีวิตประจำวันของตน ครอบครัว และชุมชน
ความคิด ความเชื่อในการทำงานทางสังคม รูปแบบหนึ่งจึงถูกพัฒนาขึ้น จากการบ่มเพาะประสบการณ์การทำงานในแวดวง “งานวิจัยเพื่อท้องถิ่น” ซึ่งมีคำขวัญว่า “สร้างสรรค์ปัญญา เพื่อพัฒนาท้องถิ่น” เป็นงานที่มีคุณค่าและความหมายสำคัญงานหนึ่งของสังคมไทย แต่ด้วยคำว่า “ปัญญา” ซึ่งมีความหมายลึกซึ้งกว่าการปฏิบัติการทางสังคมเพียงอย่างเดียวนั้น จึงส่งผลสำคัญให้เกิดคำถามอย่างเชื่อมโยงลงลึกต่อไปในใจคนทำงาน
คำถามสำคัญ คือ “จะจัดการเรียนรู้อะไร อย่างไร ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแห่งการได้รับโอกาสเกิดมาเป็นมนุษย์” หรือ “จะจัดการเรียนรู้อย่างไร ให้เกิดปัญญาเห็นความจริง”
การได้รับโอกาสการเรียนรู้ จากเสมสิกขาลัย ในเวลาเดียวกับ การเป็นพี่เลี้ยงคนหนุนเสริมงานวิจัยเพื่อท้องถิ่น เป็นประสบการณ์การสำคัญที่ส่งผลให้เกิดพลังการใคร่ครวญ ตั้งคำถาม แสวงหาทางเลือก ควบคู่กับการปฏิบัติภาวนาในรูปแบบและการทำงานอย่างจริงจัง
สิ่งที่ปรากฏผลจากการปฏิบัติผ่านประสบการณ์ตรงอย่างต่อเนื่อง คือ การเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่าง “ความรู้” กับ “ตัวรู้” ซึ่งเกิดขึ้นเป็นปฏิกิริยาของจิตที่ตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่มากระทบ อย่างธรรมดา เท่าทัน เป็นความระลึกได้ จากการใคร่ครวญทบทวนอย่างต่อเนื่อง ด้วยความเป็นอยู่อย่างปกติ และตั้งมั่น เป็นพลังความหมายรู้ที่ผุดขึ้นมาในใจ อย่างง่ายๆ และเป็นพลังสำคัญให้เกิดความศรัทธาเชื่อมั่น ถึงการสืบค้นลงไปในประสบการณ์ของจิต จากการผ่านประสบการณ์ของชีวิตและการทำงานเพื่อสังคม
“จัดการเรียนรู้ เพื่อ จัดการตนเอง” เป็นคำที่ระบุเป้าหมาย และวิธีการไปพร้อมๆกัน โดยมีเบื้องหลังความคิด ความเชื่อ ว่า “มนุษย์” มีความสามารถในการเรียนรู้ เพื่อเข้าถึงสัจจะ ความจริง จากการดำเนินชีวิตของตนในเบื้องต้น ได้ด้วยความเกื้อกูลกันและกันของสรรพสิ่ง ที่ดำรงอยู่รายรอบตัวของเรา อย่างอ่อนน้อมถ่อมตน
สถาบันปัญญาปีติ จึงจัดตั้งขึ้น เพื่อสร้างโอกาสในการ จัดการเรียนรู้ โดยมุ่งเน้นการเติบโตภายในอย่างเชื่อมโยงสัมพันธ์กัน จากการจัดการตนเองในสามด้าน อันจะเกิดขึ้นด้วยการมีโอกาสในการจัดการเรียนรู้ คือ การจัดการตนเองด้านความรู้ (Knowledge) การจัดการตนเองด้านพฤติกรรม (Performance) และจัดการตนเองเพื่อสร้างทัศนคติ (Attitude) “คิดเป็น เห็นตรง”
Institute of Joyful Wisdom.docx (1171983)
สรุปการเรียนรู้จากดอยสูง สู่ ทะเลอันดามัน.docx (3080057)